งา ชื่อพฤกษศาสตร์ ว่า sesamum indicum L. (ชื่อพ้อง sesamum orientale L.) ในวงศ์. pedaliaceae งามีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเซีย ต่อมานำไปปลูกในประเทศที่มีอากาศอบอุ่นต้นงิ้วเป็นพืชขนาดเล็กลำต้นตั้งตรงสูงราว 1 เมตรลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม มีร่องตามยาวและมีขนปกคลุม ใบเป็นรูปใบเดียวรูปไข่หรือรูปใบหอก เรียงตรงข้ามหรือสลับกัน ดอกเป็นดอกเดี่ยว เป็นหลอด กลีบดอกสีขาวหรือชมพูและมีสีม่วงแดแซมบางบางออกที่ซอกใบออกโดยรอบลำต้นตอนบน แต่จับบิดดอกมาบานในแนวเดียวกันอยู่ด้านหนึ่งของลำต้น ผลเป็นผลแห้งแตกได้มี 4ภูเมื่อแกจะเอาจะแตกดอก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดขนาดเล็กรูปไข่ แบน สีขาว (เรียก งาขาว) สีดำ (เรียก งาดำ ) สีนวล (เรียก งาหม่น)แล้วแต่ชนิดของา
น้ำมันงา (sesame oil)หรือ teel oil หรือ benne oil หรือ ได้มาจากการสกัดนำ้มันด้วยการ ตำ แล้วนำไปนึ่ง แล้วบีบเอานำ้มัน น้ำมันงาที่ได้โดยใช้ความร้อนช่วยนี้ลางทีเรียก "น้ำมันงาสุก"
แพทย์แผนโบราณนิยมใช้น้ำมันงาผสมยาใส่บาดแผลต่างๆ
น้ำมันงานี้มีรสฝาดร้อน มีองค์ประกอบสำคัญเป็นกรีเซอไรด์ ของกรดไขมันหลายชนิดที่สำคัญมี กรดโอเลอิก (ราวร้อยละ 43) กรดลิกรดลิโนเลอิก (ราวร้อยละ 43 )น้ำมันงาไม่เหม็นหืน เนื่องจากมีสารชื่อ เซสซามอล (sesamol) ซึ่งเป็นสารกันหืนอยู่ด้วย ในทางเภสัชใช้เป็นตัวละลายยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อนอกจากนั้นยังใช้เป็นอาหาร
ชาวจีนถือว่างาเป็นอาหารบำรุงทำให้ร่างกายแข็งแรงและอายุยืน จีนใช้น้ำมันงาจุดไฟเผาทำเขม่าไฟเพื่อเอาก็มาเอาไฟนั้นไปทำหมึกจีน
งามีน้ำมันระเหยยาก (fixed oil) อยู่ราวร้อยละ 45 ถึง 55 มีโปรตีนอยู่ราวร้อยละ 22 ใช้เป็นอาหารได้
แหล่งข้อมูล: ตำราพระโอสถพระนารายณ์